คอมพิวเตอร์ช่วยสอน


คอมพิวเตอร์ช่วยสอน  มีดังนี้
1.การแก้ปัญหา  (Problem Solving)  คอมพิวเตอร์ประเภทนี้จะเน้นให้ฝึกการคิดการตัดสินใจ
 โดยมีการกำหนดกฎเกณฑ์ให้แล้วผู้เรียนพิจารณาไปตามเกณฑ์  มีการให้คะแนนหรือน้ำหนักกับเกณฑ์แต่ละข้อ  เช่น ในวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นต้น                                
2.การสร้างสถานการณ์จำลอง  (Simulation)  โปรแกรมประเภทนี้เป็นโปรแกรมที่จำลองสถานการณ์ใน    ชีวิตจริงของผู้เรียนโดยมีเหตุการณ์สมมุติต่างๆ  อยู่ในโปรแกรมและนักเรียนสามารถเปลี่ยนแปลงหรือจัดกระทำได้สามารถโต้ตอบ  และมีตัวแปรหรือทางเลือกให้หลายๆ ทาง  เพื่อให้นักเรียนสามารถเลือก
ได้อย่างสุ่ม  เพื่อศึกษาผลที่เกิดขึ้นจากทางเลือกเหล่านั้น นอกจากนั้นยังช่วยให้นักเรียนเข้าใจและเห็นภาพพจน์ในบางบทเรียน  แต่หลายวิชาไม่สามารถทดลองให้เห็นจริงได้  เช่น  การเคลื่อนที่ของลูกปืนใหญ่ การเดินทางของแสงและการหักแหของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  หรือ ปรากฏการณ์ทางเคมี รวมทั้ง ชีววิทยาที่ต้องใช้เวลานานหลายวันจึงปรากฏผล  ปัญหาเหล่านี้สามารถใช้คอมพิวเตอร์จำลองแบบให้ผู้ เรียนได้เห็นจริงและเข้าใจง่าย         
3.ผู้เรียนแบบเฉพาะรายตัว  (Tutoring)  เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นมาในลักษณะของบทเรียน    โปรแกรม  เป็นการเลียน  แบบการสอนของครู กล่าวคือ  จะมีบทนำ (Introduction)  และมีคำอธิบาย (Explanation)  ซึ่งประกอบด้วยทฤษฎี  กฎเกณฑ์คำอธิบายและแนวความคิดที่จะสอนหลังจากที่นักเรียนได้ศึกษาแล้วก็จะมีคำถาม  เพื่อใช้ในการตรวจสอบความเข้าใจในแง่ต่างๆมีการแสดงผลย้อนกลับตลอดจนการเสริมแรงสามารถให้นักเรียนย้อนกลับไปบทเรียนเดิม    หรือข้ามบทเรียนที่นักเรียนรู้แล้ว  นอกจากนี้ยังอาจสามารถบันทึกการกระทำของนักเรียนว่าทำได้เ
พียงไรและอย่างไร  เพื่อให้ครูสอนมีข้อมูลในการเสริมความรู้ให้กับนักเรียนบางคนได้      
4.การฝึกและปฏิบัติ  (Drill and Practice)  แบบการฝึกและปฏิบัติส่วนใหญ่จะใช้เสริมเมื่อครูผู้สอน
บทเรียนตัวอย่างไปแล้ว  และให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดกับคอมพิวเตอร์  
เพื่อวัดระดับหรือให้นักเรียนมาฝึกจนถึงระดับที่ยอมรับได้  บทเรียนประเภทนี้จึงประกอบด้วยคำถามคำตอบ มีให้ผลย้อนกลับและการเสริมแรงที่จะให้นักเรียนทำการฝึกและปฏิบัติ  ซึ่งอาจแทรกรูปภาพเคลื่อนไหว  หรือคำพูดโต้ตอบรวมทั้งอาจมีการแข่งขัน เช่น  จับเวลา หรือสร้างรูปให้ตื่นเต้นจากการมีเสียง เป็นต้น
5.บทสนทนา  (Dialogue)  เป็นการเลียนแบบการสอนในห้องเรียนกล่าวคือ  
พยายามให้เป็นการพูดคุยระหว่างผู้สอนและผู้เรียน เพียงแต่ว่าแทนที่จะใช้เสียง  
ก็เป็นตัวอักษรบนจอภาพแล้วมีการสอนด้วยการตั้งปัญหาถามลักษณะในการใช้แบบสอบถามก็เป็นการแก้ ปัญหาอย่าง
 6.การไต่ถาม  (Inquiry)  ผู้สอนจะรวบรวมเนื้อหาเขียนโปรแกรม (Software) 
ขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ ผู้เรียนจะตั้งปัญหา หรือวิธีการแก้ปัญหา  (Problem Solving)  ป้อนคำถามเข้าคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์จะให้คำตอบการเรียนจะดำเนินไปเช่นนี้จนกว่าผู้เรียนจะสามารถแก้ปัญหา หรือเข้าใจปัญหา               
 7.การสาธิต  (Demonstration)  การสาธิตโดยใช้คอมพิวเตอร์มีลักษณะคล้ายกับการสาธิตของครู    แต่การสาธิตโดยใช้คอมพิวเตอร์   น่าสนใจกว่า  เพราะคอมพิวเตอร์ให้ทั้งเส้นกราฟที่สวยงามตลอดทั้งสีและเสียงด้วย  ครูสามารถนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อสาธิต เช่นการโคจรของดาวพระเคราะห์ในระบบสุริยะ       การหมุนเวียนของโลหิต  การสมดุลของสมการ            
8.การเล่นเกม  (Gaming)  เกมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เพื่อการเรียนการสอนนั้นเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อเร้าใจผู้เรียนได้เป็นอย่างดี  โปรแกรมประเภท นี้เป็นแบบพิเศษของแบบจำลองสถานการณ์  โดยมีเหตุการณ์ที่มีการแข่งขันซึ่งสามารถที่จะเล่นได้โดยนักเรียนเพียงคนเดียวหรือหลายคน  มีการให้คะแนนมีการแพ้ชนะ
9.การทดสอบ  (Testing)  การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนมักจะต้องรวมการทดสอบ  เป็นการวัดผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนไปด้วย โดยผู้ทำต้องคำนึงถึงหลักการต่างๆ  คือ  การสร้างข้อสอบ  การจัดการสอบ  การตรวจให้คะแนน  การวิเคราะห์ข้อสอบ  การสร้างข้อสอบและการจัดให้       ผู้สอนสุ่มเลือกข้อสอบเองได้


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม